ประวัติ ของ อภิสิทธิ์ อ้นรักษ์

วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 อภิสิทธิ์ได้รับการกำหนดให้เป็นผู้ตัดสินรอบชิงชนะเลิศโตโยต้า ลีกคัพ 2553 ระหว่างทีมสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับสโมสรฟุตบอลการท่าเรือไทยกรีฑาสถานแห่งชาติ ที่กรุงเทพมหานคร

ส่วนวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2553 อภิสิทธิ์ได้รับการกำหนดให้เป็นผู้ตัดสินที่ 4 อย่างเป็นทางการในรอบรองชนะเลิศนัดที่ 2 ของรายการเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2010 ซึ่งเป็นการแข่งระหว่างทีมอินโดนีเซียกับทีมฟิลิปปินส์ ณ เกลอรา บังการ์โน สเตเดียม ที่จาการ์ตา

ในวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2553 ในการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก 2553 รอบเพลย์ออฟระหว่างสโมสรฟุตบอลจังหวัดนครปฐมกับสโมสรฟุตบอลจังหวัดศรีสะเกษ ได้เกิดเหตุแฟนบอลทำร้ายผู้ตัดสิน ซึ่งอภิสิทธิ์ได้รับบาดเจ็บและเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล โดยเขาได้ถูกกล่าวหาว่ารับเงินจากสโมสรฟุตบอลจังหวัดศรีสะเกษ แต่ทางอภิสิทธิ์ก็ปฏิเสธว่าไม่ได้รับสินบนจากทีมดังกล่าว[3][4] ในขณะที่แฟนบอลที่ได้รับการตั้งข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้ตัดสินที่มามอบตัวก็ปฏิเสธว่ามิได้ทำร้ายอภิสิทธิ์แต่อย่างใด[5] ทั้งนี้ อภิสิทธิ์ได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพกฎกติกาการแข่งขัน หากการตัดสินผิดพลาดจริง ก็ยินดีให้ตรวจสอบตามขั้นตอนที่วางไว้ เพื่อเป็นการยกมาตรฐานวงการฟุตบอลให้สูงขึ้น[6]

เดือนตุลาคม พ.ศ. 2555 อภิสิทธิ์เป็นหนึ่งในสองผู้ตัดสินระดับฟีฟ่าที่ได้รับการเสนอห้ามมิให้ทำหน้าที่เป็นระยะเวลา 3 เดือน ภายหลังจากการเกิดความเห็นว่าผิดพลาดในการทำหน้าที่เมื่อครั้งที่สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชนะทีมสโมสรฟุตบอลโอสถสภา 4 ประตูต่อ 2 ของการแข่งขันไทยลีก[7] ในขณะเดียวกัน พลตรีชินเสณ ทองโกมล ซึ่งเป็นประธานกรรมการแต่งตั้งและประเมินผลผู้ตัดสิน ได้ออกมาเปิดเผยว่ามีการเรียกร้องให้ยุติการทำหน้าที่ผู้ตัดสินจริง หากแต่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ที่เกิดจากการปลุกกระแสของผู้เสียผลประโยชน์[8]